เราทุกคนทราบดีว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมต่างๆมากมาย และการเปลี่ยนแปลงนั้นกำลังเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วเกินไปสำหรับหลายๆ องค์กร ในสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ก็เช่นกัน Autonomous, Connected, Electric, and Shared หรือ ที่เรียกว่า ACES คือแนวโนวในอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ เห็นได้ชัดว่าการเปลี่ยนแปลงยานยนต์สู่ EV เป็นแนวโน้มที่กำลังเกิดมากขึ้น และการเปลี่ยนไปใช้ ACES ของอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ซึ่งเป็นเทรนด์ในอนาคตของระบบขนส่งยานยนต์ ที่มุ่งสู่ สิ่งแวดล้อมสะอาด ปลอดภัยและยั่งยืน
คุณอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวของ 4 เมกะเทรนด์ที่ส่งผลต่อโลกแห่งการขับเคลื่อนกำลังจะทำลายอุตสาหกรรมยานยนต์ในแบบเดิมๆ อย่างที่เราทราบกัน ก่อนเกิดโควิด อุตสาหกรรมยานยนต์ อาจกำลังคิดปรับเปลี่ยนรูปแบบจาก Traditional OEM แบบเดิมๆ สู่ยานยนต์ในแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็น การขับเคลื่อนแบบไร้คนขับ (Autonomy) ยานพาหนะที่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์แจ้งเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับอันตรายบนท้องถนน หรือสถานที่จอดรถ ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (EV) จะเข้ามาแทนที่เครื่องยนต์ ICE
เป็นงานยากที่นักอนาคตนิยมจะคาดเดาว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรหรือเมื่อไร และจะเตรียมการอย่างไรสำหรับการป้องกันตัวเอง ไม่มีใครคาดคิดว่า การเปลี่ยนแปลงจะมาถึงอย่างรวดเร็วหลังจากสถาณการณ์โรคระบาด นักลงทุนที่ท้าทายความเสี่ยงในตลาดเพื่อรองรับการเริ่มต้น EV ที่มีแนวโน้มมากขึ้น
ตัวเร่งปฏิกิริยามีมากขึ้นในการใช้พลังงานไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม มีผู้ผลิตหลายราย ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตในระดับ 1 (Tier 1) หรือแม้แต่ OEM บางรายที่ อยากลองตลาด ยอมรับความเสี่ยง แต่ทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมีค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณไม่เปลี่ยนกลยุทธ์และหมุนเร็วพอ
บางคนอาจจะมองเห็นโอกาสเติบโต แต่บางคนอาจต้องทำเพราะความเร่งด่วน
ในยุโรป รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรปได้เสนอห้ามจำหน่ายรถยนต์ ICE ในยุโรปตั้งแต่ปี 2035 (พ.ศ. 2578) เป็นต้นไป ข้อเสนอดังกล่าวกลายเป็นระเบิดเวลาสำหรับหลาย ๆ องค์กร แต่ไม่ใช่นโยบายแรกที่ประกาศออกมา สหราชอาณาจักรได้เสนอนโยบายห้าม ICE ในปีที่แล้ว และจะให้เริ่มงดจำหน่ายในปี 2030 ส่วนนอร์เวย์ภายในปี 2025 และหลายเมืองทั่วยุโรป (ปารีส อัมสเตอร์ดัม บาร์เซโลนา) มีแผนจะเลิกใช้น้ำมันดีเซลและเบนซินภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเช่นกัน
ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีอยู่และซัพพลายเออร์ต่างอาจจะกำลังยุ่งอยู่กับการแก้ปัญหาของซัพพลายเชน ไม่ว่าจะเป็น การขาดแคลนชิป การเลิกจ้างงาน และการจัดการกับการขาดแคลนแรงงานท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ ทำให้หลายๆธุรกิจอาจลืมนึกถึงเรื่องของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น และตอนนี้
ซัพพลายเออร์ที่เหลืออยู่ หรือผู้เล่นรายใหม่ กำลังเปลี่ยนโฟกัส เพื่อสร้างวงล้อใหม่ขึ้นมาเพื่อป้อน OEM ที่กำลังปรับเปลี่ยนระบบยานยนต์สู่ ระบบขับเคลื่อน EV
ทั้งหมดนี้ทำให้มีที่ว่างสำหรับสตาร์ทอัพหน้าใหม่เกิดขึ้นในตลาดมากมาย ด้วยวิธีการผลิตที่เรียบง่าย ไม่มีหนี้ทางเทคนิค และโฟกัส EV/AV ในการขยายขนาด ดึงดูดเงินทุนจากนักลงทุน และขยายเพื่อรองรับโลกใหม่ ผู้ผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์รายใหม่บางรายจะสามารถขยายไปสู่ Blue Ocean (พื้นที่ตลาดใหม่) อย่างมากขึ้น
แน่นอนว่า พื้นที่สำหรับยานยนต์ยุคใหม่ ทำให้เกิดผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของการผลิตแบตเตอรี่
Elon Musk พูดง่ายๆ ว่า "การสร้างต้นแบบนั้นง่าย แต่การผลิตนั้นยากกว่า"
ผู้เล่นรายใหม่ในตลาด อาจใช้การสร้างแบบจำลองระบบใน Excel, อีเมล และ Jira เพื่อแสดงแนวคิดแนวทาง แต่การจะสร้างประสิทธิภาพได้จริงจะต้องมี ERP ที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรมผลิตมาช่วยสนับสนุน รวมทั้งการสร้างซัพพลายเชนที่สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างรวดเร็ว จะช่วยรองรับความสามารถในการผลิตยานยนต์ให้มีประสิทธิภาพ และถูกต้องตรงตามมาตรฐานคุณภาพของอุตสาหกรรม เพื่อความอยู่รอดและเติบโตใน Blue Ocean ของ EV
ทั้งหมดนี้ อยู่ในเวลาที่จำกัด ธุรกิจสตาร์ทอัพ จะต้องใช้เวลาในการบรรลุเป้าหมายที่กำลังเติบโตของนักลงทุนให้เร็วที่สุด ไม่มีอะไรเหมาะสมไปกว่าระบบที่สามารถรองรับความเร็วเพื่อผลประโยชน์ที่ยั่งยืน แนวทางการแก้ปัญหาเฉพาะอุตสาหกรรมแบบเชื่อมต่อกัน จะช่วยให้มั่นใจถึง 3 สิ่งที่บริษัทสมัยใหม่ส่วนใหญ่ต้องการจากผลกระทบของ ACES ได้แก่ 1. เวลาในการได้รับประโยชน์โดยเร็วที่สุด 2. ความสามารถในการปรับตัวในห่วงโซ่อุปทานเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง และ 3. ความสามารถในการปรับขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเปลี่ยนจากจุดที่มีอยู่
ดังนั้น การปรับเปลี่ยนที่ดีจำเป็นต้องมีเทคโนโลยี และเครื่องมือที่ดีและเหมาะสมพอ เพื่อรองรับการหยุดชะงักและการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เพื่อสร้างแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของอุตสาหกรรม ลดความเสี่ยงและเร่งความสำเร็จได้จริง ด้วย QAD Adaptive ERP ซึ่งเรามั่นใจว่า QAD ช่วยให้ Automotive OEM Startup ประสบความสำเร็จได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
ผู้เขียน
Andreas Bareid
Andreas Bareid ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่าย E-Mobility และการพัฒนาธุรกิจแบตเตอรี่ของ QAD เขาช่วยบริษัทยานยนต์ใหม่และที่มีอยู่ ให้สามารถรับมือกับการหยุดชะงัก ขยายขนาดอย่างยั่งยืน และจัดการการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและเทคโนโลยีด้วยการนำ QAD Adaptive Applications มาปรับใช้ในธุรกิจ
ที่มา
https://www.qad.com/blog/2022/08/ev-startups-growing-with-the-shift-to-aces
ติดต่อ QAD ประเทศไทย โทร 02-202 9363
หรือกรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับในวันถัดไป : กรอกข้อมูล